วันพุธที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2555


ขนมไทยมงคล 9 ชนิด 


ถ้าพูดถึงขนมไทยเพื่อนๆคิดถึงขนมไทยชื่ออะไรบ้างคะ  สุขใจนึกถึงพวกตระกูลทองต่างๆ  ไม่ว่าจะเป็นทองหยิบ  ทองหยอด  ฝอยทอง  หรือขนมที่ใส่น้ำกะทิก็จะนึกถึงสลิ่มและลอดช่อง  แต่เพื่อนๆรู้ไหมคะว่าขนมไทยเรานี้มีความหมายในตัวเองมัน  โดยเฉพาะขนมไทยที่ชื่อเป็นมงคล 9 ชนิดที่สุขใจกำลังจะเล่าให้ฟังนี้  เป็นขนมไทยที่นิยมใช้ในงานมงคลหรือมอบให้เป็นของขวัญเพื่อแสดงถึงความเป็นสิริมงคล  ความดีงามและความเจริญรุ่งเรืองค่ะ




ขนมอย่างแรกที่จะกล่าวถึงคือ  ทองหยิบ  ขนมชนิดนี้จะต้องใช้ความปราณีตอย่างมากในการทำ  ลักษณะของขนมจะเป็นรูปดอกไม้  แม่ครัวจึงต้องจับกลีบของทองหยิบให้งดงามเหมือนกลีบดอกไม้  ขนมชนิดนี้จะแสดงถึงการมอบความมั่งคั่งร่ำรวย  กระทำการงานอันใดก็จะมีเงินมีทอง  สมดังชื่อขนมคือ  ทองหยิบ-หยิบทอง  นั่นเอง




ขนมอย่างที่ 2 ก็คือ  ทองหยอด  ขนมชนิดนี้เป็นของโปรดของสุขใจเลยค่ะ  กินได้ไม่รู้เบื่อเป็นถาดๆ  ลักษณะของทองหยอดจะลูกกลมสวยสีทองเหลืองอร่าม  การให้ทองหยอดก็เปรียบเสมือนการอวยพรให้ร่ำรวย  มีเงินทองใช้ไม่หมดสิ้น  เปรียบดั่งการให้ทองคำแก่กันค่ะ


ขนมอย่างต่อไปคือ  ฝอยทอง  ฝอยทองเนี่ยจะเป็นเส้นติดกันเป็นแพ  แม่ครัวจะทำเป็นเส้นแพยาวๆพับทบไปทบมา  นิยมให้กันในงานมงคลสมรส  ที่สำคัญคือเขาถือเคล็ดกันว่าห้ามตัดขนมให้สั้น  ต้องปล่อยให้ยาวๆแบบนี้แหละค่ะ  เนื่องจากมีความเชื่อว่าคู่บ่าวสาวจะได้ครองชีวิตคู่และรักกันอย่างยืนยาวเหมือนเส้นแพยาวๆของฝอยทอง


ขนมอย่างสุดท้ายของตระกูลทองคือ  ทองเอก  เป็นขนมที่หากินได้ยากมากๆๆๆๆในปัจจุบัน  เนื่องจากขั้นตอนการทำค่อนข้างยากและพิถีพิถัน  สวยงามและโดดเด่นกว่าขนมตระกูลทองชนิดอื่นๆตรงที่มีการติดทองคำเปลวไว้ด้านบน  ลักษณะของขนมทองเอกจะเป็นรูปดอกไม้แกะสลักแบบแตกต่างกันไป  ลวดลายจะค่อนข้างละเอียดและปราณีตมาก  ขนมชนิดนี้จะหมายถึงความเป็นที่หนึ่งหรือเป็นที่สุด  เนื่องจากคำว่าเอก  แปลว่า หนึ่ง  นิยมให้กันในการแสดงความยินดีเรื่องการเลื่อนยศ  เลื่อนตำแหน่ง  เป็นการแสดงความยินดีและอวยพรให้เจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน  เป็นที่หนึ่งหรือที่สุดในการทำงาน


ขนมอย่างที่ 5  ขนมชั้น  ที่ชื่อขนมชั้นเนี่ยเพราะลักษณะขนมจะเป็นชั้นๆทั้งหมด 9 ชั้นค่ะ   แต่สมัยนี้มีขนมชั้นที่นำมาขดเป็นรูปดอกกุหลาบ  ก็สวยไปอีกแบบและไม่ทิ้งรสชาติความอร่อยของขนมชั้นแบบเดิมๆเลยค่ะ  ส่วนความหมายของขนมชั้นก็คือ  การเลื่อนขั้น  เลื่อนชั้น  เลื่อนยศให้สูงส่งยิ่งๆขึ้นไป  และเจริญก้าวหน้าเพราะคล้องกับเลข 9 ซึ่งเป็นจำนวนชั้นของขนมค่ะ

ขนมอย่างที่ 6 คือ  เม็ดขนุน  ไม่ใช่เอาเมล็ดของขนุนมาทำนะคะ  แต่ลักษณะของขนมชนิดนี้ไปละม้ายคล้ายกับเมล็ดของขนุน  จึงตั้งชื่อตามลักษณะรูปร่างของขนม  แม่ครัวจะบดถั่วเขียวทำเป็นไส้และด้านนอกที่เป็นสีเหลืองคือเคลือบด้วยไข่แดง  ความหมายของขนมเม็ดขนุนคือ  การที่จะมีคนสนับหนุน  ค้ำจุนให้เจริญก้าวหน้าในชีวิตและหน้าที่การงาน

ขนมอย่างที่ 7 คือ  จ่ามงกุฏ  ซึ่งเป็นขนมอีกหนึ่งชนิดที่หาทานได้ยากและทำยากมากเช่นกัน  ชื่อขนมจ่ามงกุฏ  หมายถึงการเป็นหัวหน้าสูงสุด  นิยมให้เพื่อแสดงความยินดีและอวยพรในงานเลื่อนยศ  เลื่อนตำแหน่ง  ให้มีความเจริญก้าวหน้าในการงานเยิ่งๆขึ้นไป  ลักษณะของขนมชนิดนี้ก็คล้ายกับมงกุฏที่ประดับด้วยเมล็ดแตงโมงและทองคำเปลว


ขนมอย่างที่ 8 คือ  เสน่ห์จันทน์  ซึ่งมีลักษณะเหมือนลูกจันทน์  แสดงให้เห็นถึงความมีเสน่ห์  เป็นที่รักของผู้อื่น  ไม่มีคนเกลียดชัง  ขนมชนิดนี้จะนิยมใช้ประกอบในงานมงคลสมรส  สุขใจว่าตอนนี้ก็หาชิมเสน่ห์จันทน์ยากเหมือนกันค่ะ




และแล้วก็มาถึงขนมชนิดสุดท้ายคือ  ถ้วยฟู  เคล็ดลับก็คือจะนำน้ำดอกไม้สดมาเป็นส่วนผสมเพื่อให้เกิดกลิ่นหอม  ความหมายของถ้วยฟูก็เหมือนชื่อขนมเลย  คือ  ความเจริญรุ่งเรืองเฟื่องฟู  ใช้สำหรับพิธีมงคลได้ทุกพิธีเลยค่ะ

ครบหมดทั้ง 9  ชนิดของขนมไทยที่นิยมให้ในงานมงคลต่างๆแล้วนะคะ  จริงๆแล้วเราสามารถแยกให้เป็นชนิดๆได้  แต่คนไทยก็นิยมจัดเป็นพานหรือกระเช้าขนมไทยมงคล 9 ชนิดเลยค่ะ  ผู้ที่ได้รับก็จะได้พรไปเต็มๆ 9 ประการกันไปเลย  มีความสุขแถมยังรอร่อยอีก  ภูมิปัญญาคนไทยนี้เจ๋งจริงๆ